หมวดหมู่
ท่องเที่ยวต่างประเทศแบบสนุกๆ

สำรวจเมืองจอร์จทาวน์ ปีนัง 2 วัน 1 คืน


ซาลามัต ฮารีรายอ….เพิ่งผ่านช่วงเทศกาลสำคัญสำหรับชาวมุสลิม ลาหยุดยาว 4 วัน เดินทางกลับบ้าน และ 25-26 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ก็ได้เวลา Take a trip to Penang ไปเที่ยวเมืองปีนัง เมืองมรดกโลก หรือ UNESCO World Heritage City ประเทศมาเลเซีย

20150926_102729

วันแรก การเดินทาง เริ่มจากขับรถออกจากตรังตอนหกโมงเช้าถึงหาดใหญ่แปดโมงเช้า และจองตั๋วโดยสารรถตู้หาดใหญ่ปีนังล่วงหน้า จากบริษัท KST Travel ราคาไปกลับคนละ 800 บาท เที่ยวแรก 09.30 น. เวลาประเทศไทย

20150925_082516

นั่งรถตู้ไปปีนังราว 3 ชม. รถตู้ไปส่งถึงที่ Apollo Inn ซึ่งจองโรงแรมเองจาก Booking.com ราคาคืนละ 120 ริงกิต รวมอาหารเช้า ไปถึงก็เช็คอิน และจ่ายมัดจำค่าห้อง 1,000 บาท เอากระเป๋าไปเก็บในห้องพัก พักห้อง 102 ห้องพักเป็นเตียงเดี่ยว ขนาด 5 ฟุต ห้องกว้าง 12 ตร.ม. มีเครื่องปรับอากาศ ทีวีจอแบน ห้องน้ำส่วนตัวพร้อมฝักบัวน้ำอุ่น/น้ำเย็น ห้องไม่มีหน้าต่าง มี WiFi ฟรี แต่ช้ามากค่ะ ข้อดีของโรงแรมนี้ คือ ทำเลดีตั้งอยู่ในใจกลางของ George town ห่างจาก Prangin Mall เดินราวๆ 2-3 นาที ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับตึก KOMTAR

20150925_14352620150925_131658  20150925_131940  20150925_131932 20150925_131923 20150925_131919

หลังจากชมห้องพักเสร็จแล้ว ก็ออกไปหาอาหารทานกันที่ห้าง Prangin Mall ทานเสร็จ ก็ไปรอรถบัส สาย 204 เดินทางไป ปีนังฮิลล์ Penang Hill การขึ้นรถเมล์ที่ประเทศมาเลเซียเราต้องขึ้นประตูหน้า และลงประตูหลัง ขึ้นไปก็บอกกับคนขับว่าไปลง ปีนังฮิลล์ หรือ บูกิตเบนดารา (Bukit Bemdara) ค่ารถก็คนละ 2 RM

20150925_150543

20150925_160444 20150925_160437 20150925_152848  20150925_150804 20150925_150052

นั่งรถมาประมาณ 45 นาที รถก็จะมาสุดสายที่ ปีนังฮิลล์ ซื้อตั๋วรถรงไฟฟ้า ค่ารถรางไฟฟ้า ไป-กลับ คนละ 30 ริงกิต ใช้เวลา ชมวิวบนปีนังฮิอล์ สองสาม ชม. ช่วงนี้ เป็นช่วงเทศกาล นักท่องเที่ยวเยอะ ต้องรอคิว ขึ้นลงรถราง ไปกลับเกือบ 2 ชม. ข้างบนปีนังฮิลล์ มีร้านอาหารอร่อย และราคาไม่แพง ด้วย ค่ะ

20150925_162344 20150925_165317 20150925_165207

20150925_183639 20150925_171421 20150925_171425

20150925_174416 20150925_174605 20150925_175504

20150925_175649 20150925_175559 20150925_182826 20150925_182849 20150925_183241

ขากลับ รถบัส สาย 204 จอดรออยู่ด้านล่าง แล้ว ก็นั่งรถกลับไปทานอาหารค่ำในห้าง Prangin Mall และ เดินกลับไปโรงแรม และเดินไปสุดซอยโรงแรม เป็นถนนคิมเบอร์รี มีแผงอาหาร เช่น ลูกชิ้น ของหวาน หมี่ผัด ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารจีน แวะทานของหวานรอบดึก ก็อร่อยดี ไม่แพง จากนั้น ก็เดินกลับโรงแรมพักผ่อน

วันที่สอง ตื่นเช้า และลงไปทานอาหารเช้าที่โรงแรม 08.00 น. เวลามาเลเซีย เร็วกว่าไทย 1 ชม. นะคะ อาหารบุฟเฟ่ต์ มีทั้ง ข้าวผัด ผัดผัก โรตี ขนมปัง ไข่ดาว ไส้กรอก ผลไม้ ชา กาแฟ บะหมี่สำเร็จรูป ทานได้ไม่อั้น รสชาดอร่อย ถูกปาก ค่ะ โรงแรมนี้ มีขนม ชา กาแฟ บริการ ทั้งวัน ลูกค้า สามารถทานได้ตลอด ค่ะ

20150926_075311 20150926_075317

20150926_075313

หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว เราก็เดินไปที่ถนนอาร์มาเนียน เช่าจักรยาน 1 คัน วันละ 10 ริงกิต ปั่นจักรยานสำรวจเมืองจอร์จทาวน์ ตามหา สตรีท อาร์ท Street Art Penang

20150926_130034 20150926_112843 20150926_110905 20150926_110803 20150926_110756 20150926_110710 20150926_110034 20150926_094155

20150926_094013 20150926_094257 20150926_104032 20150926_111740 20150926_114350 20150926_114810 2015-09-26 17.07.01  BeautyPlus_20150926171212_save 20150926_091750

20150926_090645 20150926_095934 20150926_092001

แวะถ่ายรูปที่ ท่าเรือปีนัง หอนาฬิกาวิคตอเรีย City Hall และ Fort Cornwallis ป้อมปราการคอร์นเวลลิสตั้งชื่อตามชาร์ล คอร์นเวลลิส ผู้สำเร็จราชการของอังกฤษประจำเมืองเบงกอลในช่วงปลายทศวรรษที่ 1700 ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่มีความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์มากที่สุดในย่านจอร์จทาวน์ ตัวป้อมปราการตั้งอยู่ติดกับเอสพลานาด ถัดจากหอนาฬิกาวิกตอเรียเมโมเรียล กำแพงป้อมสูงประมาณ 10 ฟุต เป็นรูปดาว ภายในป้อม คุณจะเห็นโครงสร้างดั้งเดิมบางส่วนที่มีอายุกว่าหนึ่งร้อยปี ได้แก่ โบสถ์ คุกขังนักโทษ คลังเก็บดินปืน ประภาคารซึ่งครั้งหนึ่งใช้ส่งสัญญาณแก่เรือที่เข้ามาเทียบท่า เสาธงเก่า และปืนใหญ่สำริด หนึ่งในปืนใหญ่เหล่านี้มีปืนใหญ่ชื่อ “ศรีรัมไบ” สร้างขึ้นโดยชาวดัตช์ในปี ค.ศ. 1603 ที่น่าสนใจก็คือ ชาวท้องถิ่นบางคนเชื่อว่า ปืนใหญ่ศรีรัมไบ ให้คุณต่อหญิงผู้ต้องการมีบุตร ตั๋วผ่านประตูป้อมปืนฟอร์ต คอร์นวอลลิส (Fort Cornwallis) ราคาคนละ 20 ริงกิต

20150926_100848 20150926_101148

20150926_101559  20150926_101048 20150926_100936  20150926_100652

BeautyPlus_20150926172036_save  20150926_105911 20150926_105907 20150926_105737 20150926_103545 20150926_102722  20150926_101602 20150926_101441    20150926_100645 20150926_100636  20150926_100038 20150926_095913 20150926_095911 20150926_095901 20150926_095454 20150926_092030 20150926_091859 20150926_091229

20150926_114925 20150926_114922 20150926_114328  20150926_113948 20150926_113946 20150926_112849 20150926_110302 20150926_110226 20150926_110210 20150926_104351 20150926_104345 20150926_103817 20150926_103040 20150926_103038 20150926_092811 20150926_092549 20150926_091451 20150926_085709

 

BeautyPlus_20150926171658_save

ใช้เวลาราวๆ สามชั่วโมงกว่าๆ ถ่ายรูป เดินเล่น ปั่นจักรยาน ชิวๆ กัน ทานกลางวัน และช้อปต่อที่ Komtar Walk ใกล้ที่พัก กลับมารอรถตู้ที่โรงแรมตอนบ่ายสองกว่าๆ รถตู้มารับห้าโมงเย็น ช้ากว่ากำหนดราวๆ ชั่วโมงนึง เพราะรอรับลูกค้าตามโรงแรมต่างๆ ลูกค้าบางคนไม่รักษาเวลา ทำให้คนอื่นต้องรอ ตอนนั้น ก็กลัวจะตกรถ เพราะเที่ยวสุดท้าย สี่โมงเย็น ให้พนักงานโรงแรมช่วยโทรติดต่อบริษัททัวร์ที่มาเล พนักงานก็ยินดีช่วยเหลือดี ในที่สุดรถก็มารับ และเดินทางถึงหาดใหญ่ประมาณสองทุ่ม อย่างปลอดภัย ค่ะ

ทริป 2 วัน 1 คืน เป็นทริปที่คุ้มมาก กับเวลา 48 ชั่วโมง ประทับใจ เมืองเก่า สถาปัตยกรรมแบบยุโรป ตึกแบบชิโนโปตุกีส และตึกแบบอังกฤษ ใครไปเที่ยวปีนัง ต้องไม่พลาด ปีนังฮิล์ กับสตรีทอาร์ต ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้าหรูๆ ใหญ่ๆ อีกหลายแห่ง ทะเลที่สวยที่สุดในปีนัง ตลาดโต้รุ่ง วัดวาอาราม และศาลเจ้าชื่อดังหลายแห่ง ที่ควรไปเที่ยว หากมีเวลาสัก 3 วัน ก็น่าจะเที่ยวสถานที่สำคัญของปีนังได้ครบถ้วน

ใครที่มีเวลาน้อย แล้วอยากลุยๆ แบบนี้ ก็ลองไปเที่ยวปีนัง ได้ ค่ะ

หมวดหมู่
ท่องเที่ยวในประเทศไทย

หลวงพ่อพัฒน์ วัดพัฒนาราม (วัดใหม่) อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี


ได้มีโอกาสไปแวะวัดหลวงพ่อพัฒน์ วัดพัฒนาราม (วัดใหม่) อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี และขอนำเรื่องราว และภาพมาให้ดูกันค่ะ

20150913_120633 20150913_120655 20150913_121248 20150913_121337 20150913_121340 20150913_121404 20150913_121438

หลวงพ่อพัฒน์ วัดพัฒนาราม(วัดใหม่) อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี

บนดินแดนทักษิณแห่งสยามประเทศ เป็นอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่เป็นแหล่งกำเนิดเป็นสัปปายะ ที่บำเพ็ญเพียร ดำรงเบญจขันธ์ของอริยะสงฆ์ และอารยสงฆ์หลายต่อหลายท่านทั่งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต สืบเนื่องกันมาอย่างมิขาดสาย ประดุจดั่งกะแสธารในแม่น้ำสายใหญ่อันไหลเนื่องกันอยู่เป็นนิจนาน

ในแถบลุ่มแม่น้ำตาปี ที่เป็นลำน้ำสายใหญ่กว่าแห่งใดๆในภาคใต้ ซึ่งจัดเป็นแม่น้ำสำคัญสายหนึ่งของสยามประเทศ อันมีต้นน้ำจากบนสันเขาหลวง และเป็นแม่น้ำที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า”แม่น้ำตาปี”มาตั่งแต่ เมื่อวันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2458 นั้น เป็นอีกแหล่งหนึ่งในแถบพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยที่มากมีพระสงฆ์สุปฏิปันโน

หนึ่งในพุทธสาวกผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบเหล่านั้น หลวงพ่อพัฒน์ นารโท ปฐมเจ้าอาวาศวัดใหม่หรือวัดพัฒนาราม บ้านดอน สุราษฎร์ธานี เป็นอีกท่านหนึ่งที่ยังคงสถิตอยู่ในความเคราพศรัทธาของมหาประชาชนมาเนื่อง นาน ตราบกระทั่งปัจจุบันสมัย และคงสืบเนื่องต่อไปสู่อนาคตกาล

สิ่งซึ่งเป็นเสมือนปาฎิหาริย์ สิ่งเหนือสามัญวิสัยที่ หลวงพ่อพัฒน์ นารโท ได้แสดงให้ผู้คนได้ประจักษ์กันโดยทั่วไปอย่างกว้างขวางจนเลื่องลือระบือนาม ไปทั่วแว่นแคว้น ตลอดพระราชอาณาเขต ก็คือ การนั่งมรณภาพ แล้วร่างกายไม่เน่าเปื่อย และได้แห้งแกร่งประดุจหินผา อันเป็นปรากฎการณ์ที่จัดเป็นยุคแรกๆสำหรับการรับรู้ของผู้คนในยุคปัจจุบัน

เรื่องราวของท่าน หลวงพ่อพัฒน์ นารโท จึงได้เป็นที่กล่าวขานสืบต่อเนื่องกันมาหลายทศวรรษและจักยังคงเป็นที่เล่า ขานกันสืบต่อไปอีกนาน

ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.zoonphra.com/amulet/catalog.php?storeno=s033&idp=16373

วัดพัฒนาราม ตั้งอยู่เลขที่ ๘๗/๑ ถนนหน้าเมือง ตำบลตลาด อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี สังกัดคณะสงฆ์มหาานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๒๗ ไร่ ๓ งาน ๙๓ ตารางวา โฉนดที่ดิน เลขที่ ๙๖ อาณาเขต ทิศเหนือจดถนนพัฒนาราม ทิศใต้จดถนนหน้าเมือง ทิศตะวันออกจดถนนสาธารณะ ทิศตะวั้นตกจดคูเมืองเดิม มีที่ธรณีสงฆ์ จำนวน ๓ แปลง เนื้อที่ ๓๖ ไร่ ๒ งาน ๑๐ ตารางวา อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ กว้าง ๑๓ เมตร ยาว ๑๗ เมตร ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๖ เมตร ยาว ๓๒ เมตร เป็นอาคารทรงไทรขึ้นเดียว หอสวดมนต์ กว้าง ๓๒.๕ เมตร ยาว ๓๔ เมตร กุฏิสงฆ์ จำนวน ๒๒ หลัง เป็นอาคารไม้ ๓ หลัง ครึ่งตึกครึ่งไม้ั ๑ หลัง และตึก ๑๘ หลัง ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน ๓ หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก นอกจากนี้มี ฌาปนสถาน หอระฆัง โรงครัว ห้องสมุดพัฒนานุสรณ์ มณฑป หลวงพ่อพัฒน์ นารโท ปูชนียะวัตถุ มีพระประธานประจำอุโบสถ ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๖๐ นิ้ว สูง ๖๘ นิ้ว พระประธานประจำศาลาการเปรียญ ปางสมาธิ

ข้อมูลอ้างอิงจาก http://sni.onab.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=121

หมวดหมู่
ท่องเที่ยวในประเทศไทย โรงแรม ที่พัก น่าสนใจ

รีวิวที่พักในเมืองสุราษฎร์ธานี พารากอน โฮมเทล


รีวิวที่พักในเมืองสุราษฎร์ธานี พารากอน โฮมเทล

20150913_084543 20150913_084538

เมื่อวันเสาร์ที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา ได้ไปพักที่ พารากอน โฮมเทล Paragon hometel เราจองห้องพัก 1 คืน จาก Booking.com ทั้งหมด 11 คน จอง 4 ห้อง เป็นห้องสแตนดาร์ด 2 ห้อง ราคาห้องละ 650 บาท ไม่รวมอาหารเช้า และห้องแฟมิลี่ 1 หลัง 2 ห้อง 1,500 บาท ไม่รวมอาหารเช้า ที่เลือกจองที่นี่ เพราะดูจากรูป และรีวิวในเว็ปไซต์ เป็นรีสอร์ทใหม่ ใจกลางเมืองสุราษฎร์ ตกแต่งสีสันสดใส อินแทรนด์ดี รูปแบบโปร่งสบาย ใกล้แหล่งช๊อปปิ้ง   ห้างเซ็นทรัล โฮมโปร เทสโก้ และตัวเมือง เราไปเช็คอินเกือบสามทุ่ม ไปถึงก็มีพนักงานคอยให้บริการดี แต่เขาไม่ได้จัดห้องแฟมิลี่ ให้ จัดห้องดีลักซ์สองห้องติดกันให้แทน จ่ายราคาเดิม ด้วยเหตุผลที่ว่าห้องนั้นเต็ม แล้วผู้จัดการลืมปิดการขายใน Booking.com เราก็เข้าใจเพราะทำงานโรงแรมเหมือนกัน อาจจะเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ ก็โอเค

ส่วนห้องก็กว้างดี ขนาดน่าจะประมาณ 31-39 ตร.ม. เป็นเตียงใหญ่ ขนาด 5-6 ฟุต มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ห้องน้ำในห้องนอน และห้องนั่งเล่น โซฟา โต๊ะ เก้าอี้ 2 ตัว มีแอร์ 2 เครื่อง โทรทัศน์ LED 32″ ระบบอินเตอร์เน็ตไร้สาย WiFi ตู้เย็นมินิบาร์ น้ำดื่มฟรี 2 ขวด และ โค้ก 1 ขวด ระบบน้ำร้อน น้ำอุ่น สบู่ แชมพู หมวกอาบน้ำ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมมี บริการ WiFi ทั่วโรงแรม บริการอาหารในห้องพัก บริการซักอบรีด โดยรวม ก็เป็นที่พักที่ดี ห้องกว้าง สิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าดี เสียดายที่ไม่มีกาต้มน้ำร้อน และเซ็ทชา กาแฟ ไม่มีไดเป่าผม ก็ถือว่าคุ้มราคา น่าไปพัก แนะนำ ค่ะ
20150912_210407 20150912_210452 20150912_210454

ส่วนที่ที่ตั้ง เลขที่ 188/218 หมู่ที่ 1 ตำบลวัดประดู่ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000
เบอร์ 077-960-984-5 เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://paragonhometel.com/Home.htm

mappaiagon p1 p81

หมวดหมู่
ท่องเที่ยวในประเทศไทย

เที่ยวกุ้ยหลินเมืองไทย ภายใน 2 ชม.


สวัสดีค่ะ วันนี้ มีเรื่องราวดีๆ มาบอกเล่ากันอีกแล้ว เมื่อวันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ก็ได้มีโอกาสไปทำภาระกิจที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีกับครอบครัว ขับรถจากภูเก็ตไปสุราษฎร์ธานี ไปทาง ต.นาเหนือ ผ่านเขื่อนรัชชะประภา เราก็เลยไม่พลาดไปแวะชมวิวสวยๆ กันที่เขื่อนเชี่ยวหลาน คราวนี้ไปกัน 11 คน ก็วางแผนจะไปล่องเรือชมเขาสามเกลอ กัน ค่ะ

BeautyPlus_20150912221940_save

ไปขึ้นเรือที่ท่าเรือเทศบาล ที่ท่าเรือมีที่จอดรถ ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก หลายร้าน ก่อนอื่น ก็ไปดูโปรแกรม ดูราคากันก่อนค่ะ

20150912_183352

20150912_155129 20150912_155213 20150912_155234

เราเช่าเหมาลำ สำหรับเรือไม่เกิน 20 คน ลำละ 2,400 บาท และจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าอุทธยานคนละ 40 บาท ก็ไปขึ้นเรือได้เลย ค่ะ โปรแกรมเป็นแบบไปกลับ ระยะเวลาประมาณ 2 ชม.  แวะแพนางไพร และชมเขาสามเกลอ แค่นั้น ค่ะ

20150912_160843

เราไปขึ้นเรือตอน 4 โมงเย็น นั่งเรือเป็นชั่วโมง ชมวิวสวยๆ ของเขาสก ไปถ่ายรูปที่จุดไฮไลท์ เขาสามเกลอ และวนกลับมาแวะที่แพนางไพร จะให้อาหารปลา อาหารปลาถุงละ 10 บาท จะว่ายน้ำ เล่นน้ำ ทานอาหาร เครื่องดื่ม ที่นี่ ได้ค่ะ มีกาแฟบริการฟรี

20150912_171429 20150912_172448 20150912_172457 20150912_172501

แพนางไพรเป็นแพของอุทธยาน ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ เขาสกที่ 3 แพนางไพร มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากที่สุด ในบรรดาแพของอุทยานแห่งชาติเขาสก มีวิวทิวทัศน์หน้าแพที่สวยงาม ซึ่งเป็นจุดสำคัญของ กุ้ยหลินเมืองไทย มีปลาตะเพียนหางแดงเยอะที่สุด จนสามารถเรียกได้ว่า “วังปลา” ซึ่งปลาตะเพียนหางแดง เป็นปลาน้ำจืดที่หากินเองธรรมชาติอาศัยอยู่กันเป็นฝูงใหญ่ นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารได้ และเหมาะกับการพายเรือคายัคไป “ถ้ำประกายเพชร”ทุกทัวร์จะมาแวะชมที่นี่ มีเจ้าหน้าให้ความรู้เกี่ยวอุทธยานแห่งชาติเขาสก ค่ะ

20150912_170858

20150912_171140 20150912_172439 20150912_172443

หกโมงเย็นกว่าๆ ใกล้จะมืดค่ำแล้ว เราก็นั่งเรือกลับไปยังท่าเรือเทศบาล เป็นทัวร์แบบสั้นๆ แต่ก็รู้สึกประทับใจ และทุกคนที่เดินทางไปด้วยก็ตื่นตาตื่นใจ มีความสุขกับการเดินทางเปิดประสบการณ์ครั้งนี้ ค่ะ

1442069439536

1442069433717

ขอบคุณที่ติดตามบันทึกการเดินทาง ค่ะ